“ฝักบัว” ประหยัดน้ำ ทำความสะอาดง่ายมีอยู่จริง

เมื่อ “ฝักบัว” กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ห้องน้ำ ที่หลายบ้านมักใส่ใจในการเลือกสรรเป็นพิเศษ แล้วต้องเลือกฝักบัว แบบไหนถึงจะดี สืบเนื่องจากเพื่อเพิ่มความฟินในการอาบน้ำ ซึ่งใช่ว่าจำเป็นต้องมีรูปทรงดีไซน์สวยงาม หรือมีแรงดันน้ำแรง อย่างเดียว สิ่งสำคัญหนึ่งที่หลายบ้านไม่เคยมองข้าม นั่นคือเรื่องของการประหยัดน้ำ และทำความสะอาดง่าย เหตุนี้การจะเลือกซื้อฝักบัว เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง จำเป็นต้องคำนึงถึงชนิดของฝักบัว หัวฝักบัวประหยัดน้ำ รวมไปถึงการทำความสะอาดที่ง่ายเป็นสำคัญด้วย
ชนิดของฝักบัว
ปัจจุบันดูเหมือนศูนย์จำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ โดยเฉพาะแผนกสุขภัณฑ์ห้องน้ำ จะมีสินค้านำเสนอมากมายหลายประเภท ชนิดที่ว่าจะซื้อหาฝักบัวสักชิ้น ที่มีคุณสมบัติแรงดันน้ำแรง แต่ประหยัดค่าใช้จ่าย เล่นเอาลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้นอกจากจะต้องศึกษาความต้องการของตนเองว่าอยากได้ฝักบัวแบบไหนแล้ว ยังต้องเรียนรู้ชนิดของฝักบัวด้วย โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. ฝักบัวมือ (Hand Shower)
สำหรับฝักบัวประเภทนี้ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เรียกว่าแทบทุกบ้านจะใช้แบบนี้ โดยเป็นแบบมีสาย สามารถถอดเปลี่ยนหัว ทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญราคาย่อมเยาว์มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ทั้งนี้ระดับราคาจะแตกต่างกันตามคุณภาพ วัสดุที่ใช้ รวมไปฟังค์ชันการใช้งาน
2. ฝักบัวก้านแข็ง (Head Shower)
ฝักบัวชนิดนี้จะต่อออกมาจากท่อประปาโดยตรง ข้อดีแน่นอนว่าได้น้ำแรงตามต้องการ แต่ถ้าเลือกหัวฝักบัวผิด อาจจะทำให้ต้องเผชิญสภาวะเปลืองน้ำได้ และแน่นอนว่าข้อเสียที่ตามมาคือ อาจจะซ่อมแซมยากสักนิด เพราะต้องรื้อระบบท่อปะปาใหม่ หากเกิดปัญหาขึ้น
3. ฝักบัวข้าง (Side Shower)
เป็นรูปแบบของฝักบัว ที่ถูกแขวนกับผนัง อาจมีหัวฝักบัวเดียวหรือหลายหัวก็ได้ โดยจะทำให้ระดับน้ำที่พุ่งออกมากระจายรอบทิศทาง แน่นอนว่าสร้างความฟินไม่รู้จบในการอาบน้ำอย่างแน่นอน แต่อาจจะต้องระวังว่าค่าน้ำสักนิด สืบเนื่องจากฝักบัวประเภทนี้ ค่อนข้างจะทำให้เปลืองน้ำ ที่สำคัญมีราคาค่อนข้างสูง
4. ฝักบัวเพดาน (UpHead Shower)
มาถึงอีกหนึ่งชนิดของฝักบัว ที่เชื่อว่าหลายคนใฝ่ฝันอยากติดตั้งไว้ในห้องน้ำของตัวเอง เพราะให้ความรู้สึกเหมือนได้อาบน้ำอยู่ท่ามกลางของน้ำตกจากธรรมชาติ และไม่ต้องห่วงเรื่องระดับความแรงของน้ำ เพราะฝักบัวรูปแบบนี้เด่นเรื่องความแรงของน้ำอยู่แล้ว ทั้งนี้ใครที่คิดอยากจะติดตั้งที่บ้าน อาจจะต้องรับมือกับค่าน้ำสักหน่อย เนื่องจากค่อนข้างเปลืองน้ำ หรือไม่ต้องเลือกรุ่นที่ช่วยประหยัดน้ำ ก็จะช่วยลดภาระค่าน้ำไปได้
หัวฝักบัวช่วยประหยัดน้ำ
เมื่อเลือกชนิดของฝักบัวตามที่ต้องการได้แล้ว สำหรับใครที่กำลังกังวลกับค่าน้ำ กลัวจะต้องควักเงินเสียเยอะ แนะนำว่าให้เลือกหาหัวฝักบัวที่ช่วยประหยัดน้ำตามมาตรฐานของ มอก. กำกับอยู่ ทั้งนี้ยังมีการกำหนดมาตรฐานของปริมาณน้ำที่ไหลออกจากฝักบัว จำเป็นต้องไม่เกิน 9 ลิตร ต่อ 1 นาที ทางที่ดีแนะนำให้ติดฉลากเขียว เพื่อเป็นการการันตีว่าประหยัดน้ำอย่างแน่นอน ประกอบกับทุกวันนี้มีการดีไซน์หัวฝักบัวหลากหลายประเภท เพื่อตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและประหยัดน้ำ โดยมีให้เลือกหลากหลายยี้ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Nebia Shower หรือ Premium หัวฝักบัวแรงดันสูง สามารถประหยัดน้ำได้ถึง 30-50%
เผยเคล็ด (ไม่) ลับ การทำความสะอาดฝักบัว
เชื่อว่าทุกบ้านต่างกำลังเผชิญปัญหาปวดหัวในการทำความสะอาดฝักบัว ที่มีคราบน้ำเกาะติดจนกลายเป็นตะกอน หากปล่อยไว้เนิ่นนานก็จะทำให้ฝักบัวเกิดการอุดตัน จนทำให้น้ำไหลน้อย ทางที่ดีหากไม่อยากเผชิญชะตากรรมเช่นนื้ มาเรียนรู้วิธีการทำความสะอาดฝักบัวแบบง่ายๆ กันดีกว่า
วิธีที่ 1 ทำความสะอาดฝักบัว ที่ถอดหัวฝักบัวได้
– ถอดหัวฝักบัวออกมาแช่น้ำส้มสายชูประมาณ 30 นาที
– นำหัวฝักบัวมาล้างน้ำเปล่า
– ใช้แปรงสีฟันขัดคราบตะกอนออก อันถูกกัดกร่อนจากกรดของน้ำส้มสายชู
– ใช้ผ้าสะอาดเช็ดหัวฝักบัวให้แห้ง
– นำหัวฝักบัวไปประกอบเข้ากับตัวฝักบัว แล้วเปิดน้ำทดสอบ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้ฝักบัวในการอาบน้ำได้ฟินแล้ว
วิธีที่ 2 ทำความสะอาดฝักบัว ที่ถอดหัวฝักบัวไม่ได้
– เทน้ำส้มสายชูลงในถุงซิปล็อค โดยกะปริมาณที่สามารถแช่หัวฝักบัวได้
– นำหัวฝักบัวลงมาจุ่มในถุงซิปล็อค พร้อมใช้เชือกรัดให้แน่น แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
– นำหัวฝักบัวที่ผ่านการแช่น้ำส้มสายชู มาล้างน้ำสะอาด พร้อมเช็ดให้แห้ง
– ทดสอบแรงดันน้ำ ให้มีระดับความแรงเท่าเดิม
ภาพหลัก via homedit.com
สำหรับกลุ่มคนที่เพิ่งซื้อบ้านหรือคอนโด แล้วกำลังเลือกหาฝักบัวเพื่อสนองความต้องการของตนเอง สามารถนำรายละเอียดข้างต้น ไปประกอบการตัดสินซื้อได้


| หน้าที่เข้าชม | 258,878 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 175,085 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2559 |
| ร้านค้าอัพเดท | 11 ต.ค. 2568 |